ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่สถานทูตกัมพูชา ภาพจาก@Palrak
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงขอพระราชทานอภัยโทษพระบรมวงศานุวงศ์-ประชาชน “กัมพูชา” ดังนี้
“ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชา ได้แพร่ภาพนางสาวฐปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจของพี่น้องประชาชนชาวกัมพูชา และสร้างความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทย นางสาวฐปนีย์ เอียดศรีไชย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่ หรือแสดงความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพรักของประชาชนชาวกัมพูชา เพราะขณะนั้นอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่การรายงานข่าวประชาชนชาวกัมพูชาร่วมถวายความอาลัย แด่สมเด็จพระนโรดมสีหนุแห่งกัมพูชา ที่บริเวณหน้าพระราชวังจตุรมุขมงคล ด้วยลักษณะที่ต้องยืนรายงาน ทำให้ต้องวางสิ่งของส่วนตัว ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ สมุดจดบันทึก หนังสือพิมพ์ ซึ่งลงภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งกัมพูชา ตีพิมพ์หลังจากที่เสด็จสวรรคต และได้วางไว้ที่พื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งได้วางห่างจากตัวพอสมควร แต่เนื่องจากภาพที่ปรากฎในเฟซบุ๊ก ถ่ายจากด้านข้างค่อนไปทางด้านหลัง จึงทำให้เห็นว่า สิ่งของทั้งหมดอยู่ใกล้ตัว
ซึ่งหลังจากทราบข่าว เมื่อคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2555 นางสาวฐปนีย์ เอียดศรีไชย จึงได้รีบเดินทางไปกราบขอพระราชทานอภัยโทษ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ที่หน้าพระราชวังจตุรมุขมงคล และตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2555 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และได้แสดงความเสียใจพร้อมขออภัยต่อพี่น้องชาวกัมพูชา ที่ทำให้เกิดความรู้สึกกระทบกระเทือนใจในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อกรณีที่เกิดขึ้น ดังนั้น ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จึงใคร่ขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และขออภัยต่อรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชาในครั้งนี้ และหวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ”
แถลงการณ์ ไทยทีวีสีช่อง 3
………………………………………………………………………………………………..